Data Dictionary คืออะไร? ตัวช่วยจัดระเบียบข้อมูลที่ทุกองค์กรต้องมี

May 8, 2025
Data Dictionary คืออะไร? ตัวช่วยจัดระเบียบข้อมูลที่ทุกองค์กรต้องมี

ข้อมูลในองค์กรมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ถ้าไม่มีระบบที่ช่วยอธิบายว่าข้อมูลนั้นหมายถึงอะไร ใช้อย่างไร หรือเชื่อมโยงกับข้อมูลใดบ้าง ข้อมูลเหล่านั้นก็อาจกลายเป็นภาระมากกว่าจะสร้างประโยชน์ หลายคนอาจมองว่าปัญหาเหล่านี้ดูเล็กน้อย แต่จริง ๆ แล้วปัญหานี้สามารถสร้างผลกระทบระดับองค์กร ทั้งในแง่ของคุณภาพการวิเคราะห์ ความเสี่ยงในการตัดสินใจ และความล่าช้าในการพัฒนาระบบ

การสร้าง Data Dictionary จึงไม่ใช่แค่การสร้างเอกสารคำจำกัดความข้อมูลอีกต่อไป แต่คือเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยจัดระเบียบความเข้าใจ สร้างมาตรฐาน และทำให้ทุกทีมสามารถทำงานบนฐานข้อมูลเดียวกันอย่างมั่นใจ

ทำความรู้จัก ‘Data Dictionary’ คืออะไร

Data Dictionary คือ

Data Dictionary คือ คลังข้อมูลที่มีโครงสร้าง ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูล หรือ Metadata เช่น ชื่อออบเจกต์ (Object Name), ประเภทข้อมูล (Data Type), ขนาดข้อมูล, การจัดประเภทข้อมูล (Data Classification) และความสัมพันธ์กับข้อมูลอื่น ๆ เพื่ออธิบายโครงสร้าง เนื้อหา และความหมายของตัวแปรต่าง ๆ ในชุดข้อมูล (Dataset) หรือกลุ่มของข้อมูล โดยถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำให้ข้อมูลสามารถใช้งานซ้ำได้อย่างถูกต้อง (Reproducibility) เพราะช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจข้อมูลที่จัดเก็บหรือวิเคราะห์ได้อย่างชัดเจน

โดยสิ่งที่มักอยู่ใน Data Dictionary ได้แก่

  • ชื่อตัวแปร (Variable names)

  • ชื่อที่มนุษย์อ่านเข้าใจได้ (Human-readable variable names)

  • หน่วยวัดของตัวแปร (Measurement units)

  • ค่าที่อนุญาตให้ใช้ได้ (Allowed values)

  • คำจำกัดความของตัวแปร (Definition of the variable)

แล้ว ‘Enterprise Data Dictionary’ คืออะไร

Enterprise Data Dictionary คือ ชุดรวมของ Metadata เช่น ชื่อออบเจกต์ (Object Name), ประเภทข้อมูล (Data Type), ขนาด, การจัดประเภทข้อมูล (Classification) และความสัมพันธ์กับสินทรัพย์ข้อมูลอื่น ๆ (Data Assets)

นอกจากนี้ยังสามารถรวม Business Metadata ได้ด้วย เช่น

  • คำจำกัดความของข้อมูล

  • คำศัพท์ทางธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

  • ตัวชี้วัด (Metrics) ที่ใช้ในการวิเคราะห์

เพื่อช่วยให้ทีมในฝั่งธุรกิจสามารถเข้าใจข้อมูล และสามารถใช้งานชุดข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่ายและตรงวัตถุประสงค์ โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานทางเทคนิคลึกซึ้ง

ส่วนประกอบของ Data Dictionary

โดยทั่วไป Data Dictionary สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ Active Data Dictionary และ Passive Data Dictionary

1. Active Data Dictionary

Active Data Dictionary คือ เอกสารที่ต้องมีการอัปเดตทันทีเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในฐานข้อมูล มักบริหารจัดการโดยฝ่าย IT และจะเก็บคำจำกัดความที่อัปเดตล่าสุดของข้อมูลแต่ละรายการในระบบหรือฐานข้อมูล

ลักษณะเด่นของ Active Data Dictionary คือสามารถควบคุมความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูล (Data Integrity) ได้ดี ป้องกันความขัดแย้งหรือความคลาดเคลื่อนของข้อมูลระหว่างแหล่งต่าง ๆ

2. Passive Data Dictionary

Passive Data Dictionary คือ เอกสารแบบ Static ที่จัดทำและอัปเดตด้วยมนุษย์ ไม่ได้เชื่อมโยงกับระบบหรือฐานข้อมูลใดโดยตรง มักใช้เพื่ออ้างอิงในการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น เมื่อทีมวิเคราะห์ต้องการเข้าใจความหมายของตัวแปรต่าง ๆ และความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล เนื่องจาก Passive Data Dictionary ไม่ได้สร้างหรืออัปเดตอัตโนมัติจากฐานข้อมูล จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดความไม่ตรงกันกับข้อมูลจริง โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระบบ

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เป็นเอกสารอ้างอิงที่เข้าถึงง่ายและใช้งานแบบไม่เป็นทางการ จึงยังคงถูกใช้อย่างแพร่หลายในหมู่ Data Analyst

Data Wow AI&DATA Consultant

ประโยชน์ของการใช้ Data Dictionary ในองค์กร

ข้อดีของ Data Dictionary

ถึงแม้การตั้งค่าและสร้าง Data Dictionary อาจต้องใช้เวลาในช่วงแรก แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็คุ้มค่าอย่างมาก หัวข้อนี้จะพาไปดูว่าทำไมการมี Data Dictionary ที่ละเอียดจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับองค์กร

1. สื่อสารภายในองค์กรได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

เมื่อมี Data Dictionary ที่ระบุข้อมูลอย่างชัดเจน ทุกคนในองค์กรจะสามารถสื่อสารโดยใช้ภาษากลางเดียวกัน เข้าใจความหมายของข้อมูลในแบบเดียวกัน ซึ่งช่วยลดความเข้าใจผิดหรือการตีความข้อมูลคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะเวลาบุคลากรจากหลากหลายฝ่ายต้องทำงานร่วมกัน

2. ดูแลและอัปเดตข้อมูลได้ง่ายขึ้น

เมื่อข้อมูลมีคำจำกัดความชัดเจน การดูแลฐานข้อมูลจะง่ายขึ้นมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องเพิ่ม หรือต้องปรับเปลี่ยนข้อมูลบางส่วน บุคลกรสามารถใช้ Data Dictionary เป็นคู่มืออ้างอิงร่วมกัน ทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกันว่ากำลังปรับอะไรและเพื่ออะไร

3. สร้างความโปร่งใสและส่งเสริมการใช้งานข้อมูลแบบ Self-Service

Data Dictionary ทำหน้าที่เป็นคลังกลางของคำนิยามข้อมูล มาตรฐาน และตัวชี้วัด ที่ทุกคนในองค์กรสามารถเข้าถึงได้เท่าเทียมกัน เมื่อบุคลากรสามารถเข้าใจความหมายของข้อมูลแต่ละส่วนได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ก็จะช่วยลดการพึ่งพา ช่วยให้ทุกคนใช้ข้อมูลในแนวทางเดียวกัน และยังช่วยให้การเริ่มงานของพนักงานใหม่ (Onboarding) เป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น

4. ตรวจจับความผิดปกติของข้อมูลได้รวดเร็ว

แพลตฟอร์มข้อมูลยุคใหม่สามารถสร้างตัวชี้วัดและสถิติด้านคุณภาพข้อมูล (Data Quality Metrics) ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้สามารถประเมินคุณภาพของข้อมูลได้ทันทีเพียงแค่ดูผ่านตา

เนื่องจาก Data Dictionary แสดงสถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) เช่น ค่าต่ำสุด (Minimum), ค่าสูงสุด (Maximum), จำนวนข้อมูล (Count), ความถี่ (Frequency), ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่ามัธยฐาน (Median) การตรวจพบความผิดปกติของข้อมูลจึงทำได้ง่าย

สิ่งนี้จึงช่วยลดความเสี่ยงจากข้อมูลผิดพลาดหรือความไม่สอดคล้อง (Inconsistencies) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความแตกต่างระหว่าง Data Catalog vs. Data Dictionary

Data Catalog คือ ระบบที่ใช้สำหรับจัดทำดัชนี ตรวจนับ และจัดหมวดหมู่สินทรัพย์ข้อมูล (Data Assets) ที่กระจายอยู่ในหลายแหล่งข้อมูลขององค์กร โดย Data Catalog สมัยใหม่ จะสามารถรวบรวมข้อมูลจาก Data Dictionary และ Business Glossary เพื่อให้บริบทของข้อมูลชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งในเชิงเทคนิค ธุรกิจ และการปฏิบัติงาน

การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลทุกรูปแบบ (Metadata Crawling) ยังช่วยให้ Data Catalog สามารถแสดงภาพรวมของการไหลของข้อมูล (Data Flow) และวงจรชีวิตของข้อมูลได้ เช่น

  • ต้นทางของข้อมูล (Data Origins)

  • การเปลี่ยนแปลงข้อมูลระหว่างทาง (Transformations)

  • ความเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลต้นน้ำและปลายน้ำ (Upstream & Downstream Dependencies

ทั้ง Data Dictionary และ Business Glossary ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของ Data Catalog ในยุคใหม่ ที่ช่วยเสริมความเข้าใจและการใช้งานข้อมูลในภาพรวมขององค์กร

สุดท้าย ทั้ง Data Dictionary และ Business Glossary ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของ Data Catalog ในยุคใหม่ ที่ช่วยเสริมความเข้าใจและการใช้งานข้อมูลในภาพรวมขององค์กร

ตัวอย่างการใช้ Data Dictionary

ตัวอย่าง Data Dictionary

Data Dictionary ไม่ใช่แค่เครื่องมือเชิงเทคนิค แต่เป็นตัวช่วยสำคัญที่องค์กรสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหลายบริบท ทั้งด้านการวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาระบบ และการทำงานร่วมกันระหว่างทีม ตัวอย่างการใช้งานจริงจากองค์กรระดับโลก เช่น

1. NASA’s Planetary Data System (PDS) Data Dictionary

Data Dictionary ของระบบข้อมูลดาวเคราะห์ (Planetary Data System) โดย NASA เป็นแหล่งข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับ Metadata ของวัตถุดาวเคราะห์ โดยสามารถค้นหาตัวชี้วัด (Metrics) และตัวบ่งชี้คุณภาพของข้อมูลดาวเคราะห์ได้อย่างง่ายดาย

2. American Time Use Survey Data Dictionary

สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (Bureau of Labor Statistics) จัดทำ Data Dictionary สำหรับแบบสำรวจ American Time Use ซึ่งอธิบายว่าแต่ละตัวแปร (Variables) ถูกเข้ารหัสอย่างไร และหมายถึงอะไร ช่วยให้นักวิจัยเข้าใจโครงสร้างของข้อมูลอย่างถูกต้อง

3. MicroStrategy Intelligence Server Statistics Data Dictionary

Data Dictionary ของ MicroStrategy มีข้อมูลเกี่ยวกับ ตัวชี้วัดประสิทธิภาพ (Performance Metrics) และออบเจกต์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Intelligence Server โดยจะระบุคำจำกัดความของแต่ละตัวชี้วัด พร้อมคำอธิบายประกอบเพื่อให้เข้าใจบริบทชัดเจน

สรุป Data Dictionary

สรุปสั้น ๆ Data Dictionary คือ เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดระเบียบข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ ลดความสับสนในการสื่อสารระหว่างทีม และเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานข้อมูลอย่างถูกต้องและสอดคล้องกันทั้งองค์กร

ความพร้อมของข้อมูลคือรากฐานสำคัญ Data Wow จึงมีบริการ Data Solution ที่ช่วยเตรียมข้อมูลให้พร้อมสำหรับการบริหาร การวิเคราะห์ จนไปถึงการพัฒนาการ AI ที่ช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปรึกษาเราและเริ่มสร้าง Data Dictionary ได้แล้ววันนี้ที่ mailto:sales@datawow.io หรือโทร 02-024-5560

CONTACT US

ติดต่อเรา

!
!
!
!
!
!
!
logo
ที่ตั้งบริษัท
7 อาคารซัมเมอร์ พอยท์ ชั้นที่ 2
ซอยสุขุมวิท 69 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา
กรุงเทพมหานคร 10110
ประเทศไทย
ติดตามเรา
ISO27001
ISO27701