
เมื่อพูดถึงตำแหน่ง Executive Secretary หลายคนอาจนึกถึงบทบาทที่อยู่เบื้องหลังการประชุม คอยจดบันทึกและจัดตารางให้ผู้บริหาร แต่สำหรับทีมงานที่ Data Wow งานนี้เป็นมากกว่านั้น เพราะเบื้องหลังทุกการตัดสินใจสำคัญขององค์กร ยังมีคนหนึ่งที่คอยบริหารทุกอย่างให้ราบรื่น
ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานกับหลายทีม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ไปจนถึงการเรียนรู้แนวคิดแบบ Data-Driven จากทีม Tech เพื่อพัฒนาวิธีการทำงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
พูดคุยกับ มินต์-ชนากานต์ แก้วบุตรดี Executive Secretary ของเรา ผู้ที่อยู่เบื้องหลัง แต่ขับเคลื่อนทุกอย่างให้ “เกิดขึ้นจริง” ในแบบของ Data Wow
ตอนที่เริ่มทำงานในตำแหน่ง Executive Secretary หลายคนมักเข้าใจว่างานหลักคือจดบันทึกการประชุมหรือจัดตารางให้ผู้บริหาร แต่พอได้ลงสนามจริง เราถึงได้รู้ว่างานนี้ “กว้างและท้าทายกว่านั้นเยอะมาก” เพราะทุกวันคือการบริหาร “ทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัว” ให้ไหลลื่น
ในแต่ละวัน เราต้องเชื่อมต่อกับหลายทีม ตั้งแต่ HR, Finance, Sales, Project ไปจนถึงทีม Data Science และ Tech บางวันเริ่มต้นด้วยการช่วย CEO วางแผนประชุมเชิงกลยุทธ์ แต่จบวันด้วยการจัดการเอกสารสัญญาให้ฝ่ายกฎหมาย มันเหมือนอยู่ตรงกลางของจุดตัดระหว่าง “กลยุทธ์” และ “การลงมือทำ” ได้เห็นว่าทุกการตัดสินใจเล็ก ๆ สามารถส่งผลต่อภาพใหญ่ขององค์กรได้จริง ๆ
เราจำได้ดีตอนจัดเทรนนิ่งใหญ่ให้ลูกค้าร่วมกับทีม Data Science และ Marketing ตอนแรกเหมือนเป็นงานประสานงานทั่วไป แต่พอลงมือจริงต้องดูแทบทุกอย่าง ตั้งแต่เตรียมเอกสาร ออกแบบแบบฟอร์มลงทะเบียน ประสานกับวิทยากร ไปจนถึงดูหน้างานให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
วันจริงเจอเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น เครื่อง Projector มีปัญหาก่อนเริ่ม 10 นาที หรือผู้เข้าอบรมมาเกินจำนวนที่จองไว้ ตอนนั้นไม่มีเวลาให้ตกใจเลย ต้องรีบตัดสินใจหน้างาน ประสานกับฝ่ายสถานที่ และจัดระบบใหม่ทั้งหมดให้ทันเวลา พอผ่านวันนั้นมาได้ เราเข้าใจทันทีว่า ความเป็น Executive Secretary คือ “แกนกลางของการแก้ปัญหา” มากกว่าแค่ผู้ตาม
งานนี้อาจไม่มี Checklist ที่ตายตัว เพราะสิ่งที่ต้องเจอแต่ละวันไม่เคยเหมือนกัน แต่ทุกครั้งที่สถานการณ์ตึงเครียด เช่น ลูกค้าต้องการ Proposal ขณะที่ Data Consultant ไม่อยู่ เราก็ต้องลงมือขึ้น Proposal เอง หรือเคลียร์ความเข้าใจระหว่างทีมต่างแผนก มันสอนให้เรานิ่งขึ้น รอบคอบขึ้น และรู้วิธีสื่อสารให้เกิดความเข้าใจร่วมกัน สิ่งเหล่านี้ทำให้ “ความเหนื่อย” ไม่ได้หายไป แต่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เราพัฒนาเครื่องมือจัดการงาน และสื่อสารกับทีมให้ดีขึ้นทุกวัน
เพราะที่นี่ไม่เคยทำให้เรารู้สึกว่าเป็นแค่ “ผู้ช่วย” แต่เป็นคนที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนทีม ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่นี่เปิดโอกาสให้ลองผิดลองถูก ชวนให้คิด และให้เรียนรู้สิ่งใหม่อยู่เสมอ
บางครั้งได้ร่วมดีไซน์ Flow เทรนนิ่ง บางครั้งได้ช่วยวางแผนกิจกรรม หรือแม้แต่ช่วยออกแบบกระบวนการภายใน ทุกอย่างทำให้เรารู้สึกว่าการเติบโตไม่ได้มาจากตำแหน่ง แต่มาจากการได้ลงมือทำจริง ๆ
“การเป็น Executive Secretary ไม่ใช่แค่คนที่คอยจดสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องประชุม แต่คือคนที่ทำให้สิ่งที่ถูกจดนั้น ‘เกิดขึ้นจริง’”