อย่างที่เราทราบกันว่า ในโลกปัจจุบันได้มีการสร้างข้อมูลจำนวนมหาศาลในทุก ๆ วัน และหากข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง ก็จำเป็นต้องผ่านการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ ‘Data Model’ หรือ ‘แบบจำลองข้อมูล’ กลายเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำให้ข้อมูลมีโครงสร้าง ชัดเจน และนำไปใช้งานได้อย่างถูกต้อง
วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจว่า Data Model คืออะไร มีกี่ประเภท แตกต่างกันอย่างไร พร้อมยกตัวอย่างแบบเข้าใจง่าย สำหรับมือใหม่และผู้ที่ทำงานด้าน IT, Data, หรือพัฒนาระบบ
Data Model คือ แบบจำลองเชิงนามธรรมที่ใช้แทนโครงสร้างข้อมูล ซึ่งช่วยจัดระเบียบและบริหารจัดการข้อมูลในระบบฐานข้อมูลหรือระบบสารสนเทศ โดย Data Model จะกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของข้อมูล และระบุว่าข้อมูลเหล่านั้นถูกจัดเก็บ จัดเรียง และเรียกใช้อย่างไร
Data Model จึงถูกใช้ในการสร้างฐานข้อมูล (Database) และคลังข้อมูล (Data Warehouse), บริหารจัดการข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ (Analytical Processing) รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันที่เปิดให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลในรูปแบบที่มีความหมายและเป็นประโยชน์
Data Modeling คือ กระบวนการวิเคราะห์และกำหนดรูปแบบของข้อมูลทั้งหมดที่ธุรกิจของคุณเก็บรวบรวมและสร้างขึ้น รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลแต่ละประเภทเหล่านั้นด้วย โดยการใช้ข้อความ สัญลักษณ์ และแผนผังต่าง ๆ แนวคิดของ Data Modeling จะช่วยสร้างภาพแทนข้อมูลในเชิงภาพ เช่น ข้อมูลถูกเก็บอย่างไร ใช้อย่างไร และไหลผ่านระบบธุรกิจของคุณในแต่ละขั้นตอนอย่างไร
เมื่อธุรกิจเริ่มกำหนดว่าจะใช้ข้อมูลอย่างไร และใช้เมื่อใด กระบวนการ Data Modeling จึงเปรียบเสมือนเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าใจและชี้แจงความต้องการด้านข้อมูลขององค์กรได้อย่างชัดเจน
การสร้าง Data Modelช่วยให้สามารถบันทึกและเข้าใจประเภทของข้อมูลที่มี วิธีการใช้งานข้อมูล และข้อกำหนดในการจัดการข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นด้านการใช้งาน การปกป้องข้อมูล หรือการกำกับดูแลข้อมูล (Data Governance)
โดยข้อดีของการทำ Data Model เช่น
ดังนั้น การทำ Data Model ไม่ได้มีประโยชน์แค่ผลลัพธ์ที่ได้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงกระบวนการในการไปถึงผลลัพธ์นั้นด้วย
Data Model สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ซึ่งแตกต่างกันตามระดับของความเป็นนามธรรมกระบวนการจะเริ่มจาก Conceptual Data Models จากนั้นจึงพัฒนาเป็น Logical Data Models และจบลงที่ Physical Data Models
Conceptual Data Models มักถูกสร้างขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการเก็บความต้องการของโครงการ (Requirement Gathering) สำหรับการพัฒนาระบบฐานข้อมูลในอนาคต โดยแบบจำลองนี้จะถูกพัฒนาขึ้นจากการรวบรวมข้อมูลและความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในธุรกิจ เพื่อให้เห็นภาพรวมของระบบในระดับสูงว่าจะมีข้อมูลอะไรบ้าง ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกจัดระเบียบอย่างไร และกำหนดองค์ประกอบหลักกับกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ในเชิงธุรกิจ
Logical Data Models จะลงรายละเอียดมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Conceptual Model โดยอธิบายองค์ประกอบของระบบ เช่น หน่วยข้อมูลหลัก (Entity) คุณลักษณะของข้อมูล (Attribute) ประเภทของข้อมูล (Data Types) และความสัมพันธ์ระหว่าง Entity ต่าง ๆ โดยแบบจำลองนี้ถูกใช้ในการพัฒนาโครงสร้างฐานข้อมูล (Database Schema) ผ่านความร่วมมือระหว่าง Data Architect และ Business Analyst
Physical Data Models คือ แบบจำลองที่มีรายละเอียดเชิงเทคนิคมากที่สุด มีความเป็นรูปธรรมมากที่สุดเมื่อเทียบกับ Data Model ประเภทอื่น ซึ่งครอบคลุมโครงสร้างทั้งหมดที่ใช้ในการนำระบบฐานข้อมูลไปใช้งานจริง แบบจำลองนี้จะถูกออกแบบโดยนักพัฒนาฐานข้อมูล (Database Developer) และระบุรายละเอียดเช่น ประเภทของข้อมูล (Data Types) การทำ Index และวิธีการเข้าถึงข้อมูล (Access Methods) เป็นต้น
- Entity-Relationship (ER) Data Model: เป็นแบบจำลองที่ใช้แผนภาพ (Diagram) เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่าง Entity ต่าง ๆ ภายในฐานข้อมูล ช่วยให้มองเห็นโครงสร้างและความเชื่อมโยงของข้อมูลได้ชัดเจน
- Relational Data Model: เป็นแบบจำลองที่สามารถเชื่อมโยงกับ ER Model ได้ โดย Entity ต่าง ๆ จะถูกอธิบายอยู่ในรูปแบบของตาราง (Table) ที่ประกอบด้วยคอลัมน์ 2 คอลัมน์ขึ้นไป ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
- Dimensional Data Model: ใช้แสดง Entity ในรูปแบบของตาราง 3 มิติ ซึ่งนิยมใช้ในงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Analytical Processing) และยังมีรูปแบบย่อยอีกประเภทคือ Multidimensional Data Model ซึ่งตารางจะมีมากกว่า 3 คอลัมน์ เพื่อรองรับการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ในระบบ Business Intelligence (BI) หรือ Data Warehouse
จากบทความข้างต้น สามารถสรุปได้ว่า Data Model คือ รากฐานสำคัญในการออกแบบระบบข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ระดับภาพรวมไปจนถึงโครงสร้างเชิงเทคนิค การเข้าใจประเภทต่าง ๆ ของ Data Model และกระบวนการ Data Modeling จะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางระบบข้อมูลได้อย่างเป็นระเบียบ ปลอดภัย และรองรับการเติบโตในอนาคต
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนา นักวิเคราะห์ข้อมูล หรือผู้บริหาร การมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Data Model คือก้าวแรกที่สำคัญในการสร้างระบบที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างแท้จริง ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จากหลายภาคธุรกิจจาก Data Wow ได้แล้ววันนี้ที่ sales@datawow.io หรือโทร 02-024-5560 เราพร้อมให้คำแนะนำ