Data Strategy วิธีเปลี่ยนข้อมูลเป็นกลยุทธ์ธุรกิจที่สร้างความได้เปรียบ

May 9, 2025
Data Strategy  วิธีเปลี่ยนข้อมูลเป็นกลยุทธ์ธุรกิจที่สร้างความได้เปรียบ

ยุคที่ข้อมูลเป็นตัวแปรสำคัญต่อความอยู่รอดและความได้เปรียบของธุรกิจ การมีข้อมูลจำนวนมากไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป หากขาดแนวทางที่ชัดเจนในการจัดการ วิเคราะห์ และใช้ประโยชน์จากมันอย่างเป็นระบบ จึงเป็นเหตุผลที่ ‘Data Strategy’ หรือ ‘กลยุทธ์ข้อมูล’ กลายเป็นสิ่งที่องค์กรยุคใหม่ต้องมี ไม่ใช่แค่ควรมี

ทำความรู้จัก Data Strategy

Data Strategy คือ แผนกลยุทธ์ระยะยาวที่วางโครงสร้างอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมทั้งเทคโนโลยี กระบวนการ บุคลากร และกฎเกณฑ์ เพื่อบริหารจัดการข้อมูล (Information Assets) ขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ

ในยุคที่ทุกองค์กรเก็บข้อมูลมหาศาลจากหลายช่องทาง เพียงแค่มีข้อมูลไม่เพียงพออีกต่อไป สิ่งที่จำเป็นคือ แนวทางที่ชัดเจนในการจัดการ วิเคราะห์ และนำข้อมูลมาใช้สร้างคุณค่า

Data Strategy จึงมีบทบาทสำคัญในการ

  • วางวิสัยทัศน์ระยะยาวสำหรับการ เก็บ จัดเก็บ แบ่งปัน และใช้ข้อมูล
  • ปูรากฐานสำหรับการนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจ
  • สร้างความพร้อมสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น Machine Learning หรือ Generative AI

เมื่อมี Data Strategy ที่ดี ทุกคนในองค์กรจะสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น และทำงานกับข้อมูลได้อย่างราบรื่นตลอดทุกขั้นตอนของการจัดการข้อมูล (Data Journey)

สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อสร้าง Data Strategy

Data Strategy คือ

Data Governance

Data Governance คือ กระบวนการกำหนดกฎเกณฑ์และมาตรฐานในการจัดการข้อมูล ซึ่งครอบคลุมนโยบาย ขั้นตอน และบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน เพื่อให้มั่นใจว่า ข้อมูลมีคุณภาพ ความถูกต้อง และความปลอดภัย อย่างต่อเนื่อง

เมื่อจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ Data Governance จะช่วยสร้าง ความเชื่อมั่นในข้อมูล โดยเน้นไปที่ความแม่นยำ ความสม่ำเสมอ และความน่าเชื่อถือ เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิผล

สิ่งที่ควรกำหนดไว้ภายใต้ Data Governance ได้แก่

  • การบริหารคุณภาพข้อมูล (Data Quality Management): ใช้แนวปฏิบัติที่พิสูจน์แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลมีความสมบูรณ์ ทันเวลา และเกี่ยวข้องกับบริบทที่ใช้
  • การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนด (Compliance): ดำเนินการตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลได้รับการคุ้มครองด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
  • บทบาทและความรับผิดชอบ (Roles and Responsibilities): ระบุว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบในแต่ละขั้นตอนของการจัดการข้อมูล ตั้งแต่การสร้างข้อมูล ไปจนถึงการจัดเก็บถาวร

Data Architecture

Data Architecture ที่มีโครงสร้างดี จะช่วยให้องค์กรสามารถขยายระบบ (Scalability) และปรับตัวได้อย่างยืดหยุ่น รองรับความต้องการด้านการจัดเก็บ เชื่อมต่อ และบริหารข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยองค์ประกอบสำคัญได้แก่

  • การเลือกฐานข้อมูล (Database Selection): เลือกใช้ฐานข้อมูล, Data Warehouse และ Data Lake ที่เหมาะสม เพื่อให้การจัดเก็บข้อมูลมีประสิทธิภาพ
  • วิธีการเชื่อมโยงข้อมูล (Data Integration Methods): ทำให้ข้อมูลสามารถไหลข้ามแหล่งต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น และเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา
  • การขยายตัวและความยืดหยุ่น (Scalability and Flexibility): ออกแบบสถาปัตยกรรมที่สามารถรองรับการเติบโตและความต้องการด้านข้อมูลที่เปลี่ยนไป

Data Quality Management

คุณภาพของข้อมูลมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจของธุรกิจ ข้อมูลที่ผิดพลาดหรือไม่สอดคล้องกันอาจนำไปสู่กลยุทธ์ที่ผิดพลาดและโอกาสที่สูญเสีย การรักษาคุณภาพของข้อมูลให้แม่นยำ สม่ำเสมอ และเชื่อถือได้ จำเป็นต้องมีการดำเนินการดังนี้

  • การทำความสะอาดข้อมูล (Data Cleansing): ลบข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือขัดแย้งกัน
  • การตรวจสอบข้อมูล (Data Validation): ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดโดยภาครัฐ อุตสาหกรรม หรือองค์กร
  • การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ (Regular Monitoring): ตรวจจับข้อผิดพลาดอย่างต่อเนื่อง และแก้ไขก่อนที่ปัญหาจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

Data Integration

การรวมข้อมูล (Data Integration) ช่วยลดการทำงานแบบแยกส่วน (Silo) ภายในองค์กร ทำให้สามารถมองภาพรวมของการดำเนินงาน และวิเคราะห์ได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น โดยมีขั้นตอนหลักดังนี้

  • การรวมข้อมูล (Data Consolidation): รวบรวมข้อมูลจากระบบหรือแหล่งต่าง ๆ
  • การดึงข้อมูล (Data Extraction): เร่งกระบวนการดึงข้อมูลหลักจากหลายแหล่ง
  • การแปลงข้อมูล (Data Transformation): แปลงข้อมูลจากระบบเดิมให้อยู่ในรูปแบบที่สอดคล้องกัน พร้อมสำหรับการวิเคราะห์และการทำงานร่วมกัน
  • การโหลดข้อมูล (Data Loading): นำข้อมูลที่รวมแล้วไปจัดเก็บในคลังข้อมูลศูนย์กลาง (Central Repository) ที่ทันสมัยและเข้าถึงได้

Data Analytics และ Business Intelligence

การวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้องค์กรตัดสินใจอย่างแม่นยำ ขับเคลื่อนนวัตกรรม และปรับปรุงประสิทธิภาพทางธุรกิจ โดยต้องอาศัยเครื่องมือและเทคนิคขั้นสูง เช่น

  • เครื่องมือแสดงผลข้อมูล (Data Visualization Tools): นำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น กราฟ แผนภูมิ และแดชบอร์ด
  • การวิเคราะห์ทางสถิติ (Statistical Analytics): ค้นหารูปแบบและแนวโน้มโดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น Descriptive, Predictive, Prescriptive, Diagnostic และ Inferential Analytics
  • โมเดล Machine Learning: ใช้อัลกอริธึมเรียนรู้จากข้อมูลในอดีตเพื่อคาดการณ์พฤติกรรมในอนาคต และช่วยอัตโนมัติในกระบวนการตัดสินใจ

Data Security

มาตรการความปลอดภัยของข้อมูลมีหน้าที่ปกป้องข้อมูลที่สำคัญจากการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต และช่วยให้องค์กรปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัว เช่น GDPR หรือ PDPA โดยต้องดำเนินการดังนี้:

  • การเข้ารหัสข้อมูล (Encryption): แปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบรหัสที่สามารถถอดได้เฉพาะผู้มีสิทธิ์เท่านั้น ทั้งขณะจัดเก็บและส่งข้อมูล
  • การควบคุมสิทธิ์การเข้าถึง (Access Controls): จำกัดสิทธิ์ให้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตสามารถดู แก้ไข หรือลบข้อมูล
  • การตรวจสอบความปลอดภัยเป็นประจำ (Regular Security Audits): ตรวจสอบจุดอ่อนในระบบ เช่น การประเมินความเสี่ยง การทดสอบการเจาะระบบ และการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด

Data Wow AI&DATA Consultant

Data Strategy มีประโยชน์อย่างไร

Data Strategy ที่ดี คือแผนงานที่กำหนดว่าองค์กรจะเก็บ รวบรวม ประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร เพื่อให้สามารถใช้ศักยภาพของข้อมูลได้เต็มที่ในการสนับสนุนเป้าหมายและกลยุทธ์ทางธุรกิจ

กลยุทธ์นี้จะระบุประเภทของข้อมูลที่องค์กรควรโฟกัส เครื่องมือและเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้บริหารจัดการข้อมูล รวมถึงขั้นตอนและนโยบายต่าง ๆ ที่ช่วยให้การใช้ข้อมูลมีประสิทธิภาพสูงสุด เมื่อวางแผนอย่างรอบคอบแล้ว Data Strategy จะมอบประโยชน์ดังนี้

เพิ่มการมีส่วนร่วมของทีมงาน (Increased Engagement)

การมี Data Strategy ที่ชัดเจนจะทำให้การใช้ข้อมูลในองค์กรมีเป้าหมาย และสามารถสนับสนุนการตัดสินใจได้จริง ส่งผลให้พนักงานมี ความเข้าใจ ร่วมมือ และรับผิดชอบต่อข้อมูล มากขึ้น Data Strategy ที่ดีจะวางรากฐานให้ธุรกิจใช้ข้อมูลเชิงกลยุทธ์อย่างแท้จริง

เพิ่มความยืดหยุ่นสูงสุด (Maximum Flexibility)

Data Strategy ช่วยสร้างโครงร่าง (Framework) สำหรับการจัดเก็บ ประมวลผล และใช้งานข้อมูล ซึ่งทำให้องค์กรสามารถ

  • ปรับตัวตามความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง
  • รองรับโอกาสใหม่ ๆ ได้ทันที

ระบบข้อมูลที่ออกแบบมาให้ปรับขยาย (Scalable) และใช้ซ้ำได้ (Reusable) จะทำให้องค์กรมีความคล่องตัวสูง ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับการแข่งขันในยุคปัจจุบัน

Data Strategy มีขั้นตอนการสร้างอย่างไร

Data Strategy ข้อดี

1. รวมทีมที่ใช่ (Put Together a Team)

ขั้นตอนแรกของ Data Strategy เริ่มจากการระบุตัว Stakeholder หลักที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลในองค์กร ทีมนี้ควรเป็นทีมแบบข้ามสายงาน (Cross-functional) เพื่อให้แน่ใจว่ามีตัวแทนจากฝ่ายที่เข้าถึงข้อมูลสำคัญ และมีเป้าหมายร่วมกันในการลดการทำงานแบบไซโล (Silo) และ เปิดให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเท่าเทียม

2. กำหนดเป้าหมายเชิงธุรกิจ (Choose Your Objectives)

กำหนดว่าองค์กรต้องการได้อะไรจาก Data Strategy เช่น

  • เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
  • ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
  • เพิ่มรายได้
  • ลดต้นทุน
  • ทำให้ข้อมูลที่มีอยู่ถูกตีความและใช้งานได้จริงมากขึ้น

3. ประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน (Evaluate Your Current Situation)

ตอบคำถามสำคัญที่สำคัญ เช่น

  • ข้อมูลอยู่ที่ไหน ใครเป็นเจ้าของ และใครเข้าถึงได้?
  • ใช้ระบบ/เครื่องมือใดอยู่แล้ว?
  • ระดับความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลอยู่ในจุดใด?
  • แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมมีอะไรบ้าง?
  • ช่องว่างหรืออุปสรรคที่ต้องจัดการคืออะไร?

4. สร้าง Roadmap (Create a Roadmap)

วางแผนปฏิบัติการ ต้องมีโครงการหรือกิจกรรมอะไรบ้างจึงจะบรรลุเป้าหมาย? Roadmap นี้ควรมี

  • ระยะเวลา (Timeline)
  • ทรัพยากรที่ต้องใช้
  • เป้าหมายระยะสั้น, กลาง, ยาว (Milestones)

5. กำหนดนโยบายและมาตรฐานที่ชัดเจน (Establish Clear Policies)

ตั้งหลักการและมาตรฐานที่องค์กรจะยึดถือในการใช้ข้อมูล เช่น

  • คุณภาพข้อมูล
  • ความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย
  • ทรัพยากรและระยะเวลาที่ต้องใช้

6. ลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ที่จำเป็น (Invest in Technology)

พิจารณาว่าองค์กรควรลงทุนในเทคโนโลยีใด เช่น

  • ระบบจัดการข้อมูล (Data Management Platforms)
  • เครื่องมือ Data Integration
  • Analytics Tools ที่ช่วยให้เข้าใจข้อมูลได้ง่ายผ่าน Visualization

นอกจากนี้ควรสำรวจว่าเครื่องมือเดิมที่มีอยู่สามารถนำกลับมาใช้ได้หรือไม่ และระบบพื้นฐาน (Infrastructure) ต้องสามารถรองรับข้อมูลขนาดใหญ่ได้

7. ส่งเสริมวัฒนธรรม Data-Driven (Build a Data-First Culture)

พัฒนาทักษะใหม่ให้บุคลากร พร้อมรับมือกับ

  • ประเภทข้อมูลที่เปลี่ยนแปลง
  • ความต้องการของธุรกิจที่เปลี่ยนไป
  • ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น AI, ML

สร้างพื้นที่ที่สามารถทดลองและทดสอบแนวคิดใหม่ เช่น ML Model หรือฟีเจอร์ AI ได้อย่างอิสระ

8. ติดตามและปรับกลยุทธ์อย่างสม่ำเสมอ (Monitor and Reassess)

กำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ (KPI) ที่สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจ ใช้ข้อมูลจริงในการประเมินผลลัพธ์ ตั้ง Benchmark เพื่อวัดความคืบหน้า และปรับกลยุทธ์ตามความเปลี่ยนแปลงขององค์กรหรือสภาพตลาด

ตัวอย่างการใช้งาน Data Strategy กับธุรกิจและองค์กร

ธุรกิจสุขภาพ

Data Strategy กำลังเปลี่ยนโฉมวงการสาธารณสุข ด้วยการส่งเสริมการแบ่งปันข้อมูลอย่างมีระบบ และการใช้ การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics)

ตัวอย่างเช่น การจัดทำแผนการรักษาเฉพาะบุคคล การตรวจโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น และการจัดสรรบุคลากรทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ ล้วนช่วยให้ผลการรักษาดีขึ้น

โรงพยาบาลและคลินิกยังเริ่มใช้เครื่องมือจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างครบวงจร เพื่อ ลดต้นทุนการดำเนินงาน พร้อมทั้ง ยกระดับคุณภาพการดูแลผู้ป่วย

ธุรกิจค้าปลีก

ธุรกิจค้าปลีกนำ Data Strategy มาใช้เพื่อสร้างแคมเปญการตลาดแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) บริหารสินค้าคงคลังอย่างเหมาะสม และยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ด้วยการวิเคราะห์ พฤติกรรมผู้บริโภค และ รูปแบบการซื้อสินค้า ร้านค้าสามารถออกแบบโปรโมชั่นและนำเสนอสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

ธุรกิจการเงิน

สถาบันการเงินนำ Data Strategy มาใช้เพื่อการตรวจจับการฉ้อโกงอย่างรอบด้าน (Fraud Detection), การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) และการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย (Regulatory Compliance) ตัวอย่างเช่น ธนาคารจะกำหนดเกณฑ์เฉพาะในการวิเคราะห์ธุรกรรม เพื่อตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ ป้องกันการฉ้อโกง และลดความเสี่ยง

อุตสาหกรรมการผลิต

Data Strategy มีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะในด้านการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance), การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต, และ การปรับปรุงการบริหารจัดการซัพพลายเชน การเฝ้าติดตามประสิทธิภาพของเครื่องจักรและวิเคราะห์ข้อมูลการดำเนินงาน ทำให้ผู้ผลิตสามารถ คาดการณ์ความเสียหายของเครื่องจักรได้ก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง ซึ่งช่วยลดเวลาในการหยุดทำงาน (Downtime) และลดต้นทุนในการซ่อมบำรุง

รัฐบาล

หน่วยงานภาครัฐใช้ Data Strategy เพื่อพัฒนา คุณภาพของบริการสาธารณะ จัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการออกนโยบายที่อิงจากข้อมูลจริง การวิเคราะห์ข้อมูลประชากรและเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลสามารถตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น และตรงกับความต้องการของประชาชนมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น การเพิ่มความโปร่งใสในการดำเนินงาน และปรับปรุงคุณภาพการให้บริการ ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการบริหารจัดการทรัพยากรของรัฐ

สรุป Data Strategy

Data Strategy คือกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเปลี่ยนข้อมูลให้กลายเป็นทรัพยากรเชิงกลยุทธ์ ช่วยให้องค์กรสามารถใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ ปรับตัว และแข่งขันในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ การวาง Data Strategy ที่ดีไม่ได้เน้นเพียงเทคโนโลยี แต่รวมถึงการวางโครงสร้าง การบริหารจัดการ และการปรับให้สอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจอย่างแท้

จากเหตุผลทั้งหมด ทำให้ Data Strategy กลายเป็นก้าวแรกที่ไม่ควรมองข้าม หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาความได้เปรียบ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก Data Wow ได้ที่ sales@datawow.io หรือโทร 02-024-5560

CONTACT US

ติดต่อเรา

!
!
!
!
!
!
!
logo
ที่ตั้งบริษัท
7 อาคารซัมเมอร์ พอยท์ ชั้นที่ 2
ซอยสุขุมวิท 69 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา
กรุงเทพมหานคร 10110
ประเทศไทย
ติดตามเรา
ISO27001
ISO27701